แก้ไขล่าสุด วันที่ 17th August, 2023 at 09:26 pm
การรับมือกับผู้ที่ติดยาเสพติดอย่างเข้าใจและถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญทีสมาชิกในครอบครัวต้องศึกษาและเรียนรู้แม้ว่าจะไม่มีใครอยากให้บุคคลอันเป็นที่รักข้องเกี่ยวกับยาเสพติดก็ตาม ครอบครัวเป็นสถาบันแรกที่ต้องดูแลผู้ป่วยติดยาเสพติด ก่อนที่จะเข้าสู่สถานบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติด และเป็นสถาบันที่สำคัญมากที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถประสบประสบความสำเร็จในการรักษาอาหารติดยาเสพติดได้ในที่สุด
นี่เป็นคำแนะนำสิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อคุณรับรู้ว่าบุคคลในครอบครัวอันเป็นที่รักติดยาเสพติด
1. ตั้งสติเพื่อควบคุมอารมณ์
เราทุกคนล้วนรู้ดีว่าการติดยาเสพติดทำร้าชีวิตอย่างรุนแรง ทำให้คุณอาจจะเกิดอารมณ์โกรธเมื่อรับรู้ว่าบุคคลอันเป็นที่รักยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนอาจจะเผลอแสดงความผิดหวังด้วยความเกรี้ยวกราด โมโห ตะคอกใส่บุคคลอันเป็นที่รักเพื่อระบายความผิดหวังเสียใจนั้น แต่นั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ และอาจจะทำให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณหนีไปไกลและยากที่จะเข้ารักษาอาการติดยาที่เป็นปัญหานั่น เพราะฉะนั้นเมื่อคุณรู้บุคคลอันเป็นที่รักติดยาเสพติด คุณต้องตั้งสติ หากโกรธควรหลีกเข้าห้องสักพัก จนกว่าอารมณ์โมโหรุนแรง และความคิดที่พลุ่งพล่านนั้นจะสงบลง แล้วจึงหันมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
2. พูดคุยอย่างเข้าใจ
ไม่มีใครอยากเป็นคนสร้างปัญหา บุคคลอันเป็นที่รักของคุณที่ติดยาเสพติดก็เช่นกัน สิ่งสำคัญของวิธีพูดกับคนติดยาก็คือความเข้าใจ การพูดคุยอย่างเข้าใจ รับรู้ถึงปัญหา ปลอบโยนและให้กำลังใจ จะช่วยให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณเข้าสู่การรักษาอาการติดยาเสพติด และไม่เกิดการต่อต้าน ไม่ไปบำบัดยาเสพติด
3. สอบถามข้อมูลที่จำเป็นเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการรักษา
ในขั้นตอนการพูดคุยอย่างเข้าใจ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องสอบถามจากบุคคลอันเป็นที่รักคือ สาเหตุของการติดสารเสพติด อะไรที่ทำให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณตัดสินใจใช้ยาเสพติด หลายครั้งที่บางคนติดยาเสพติดเพราะใช้เพื่อระงับอาการเจ็บป่วยของโรคก็มี การเปิดใจรับฟังจะช่วยให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดูแลผู้ป่วยติดยาเสพติด นอกจากนั้นข้อมูลอื่นๆที่สำคัญคือ วิธีการเสพยา กิน ฉีด ดม ฯลฯ ความถี่ในการเสพย์ยาเสพติด จำนวนการใช้ยาเสพติดในแต่ละครั้ง ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่แพทย์หรือสถานบำบัดอาการติดยา ใช้ในการประเมินการรักษาอาการติดยาเสพติดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณหลุดพ้นจากการติดยาเสพติดได้ในที่สุด
4. ร่วมมือกันในการหาทางออก
การบำบัดอาการติดยาเสพติด ต้องร่วมมือกันทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยติดยาเสพติด ซึ่งก็คือบุคคลในครอบครัวของผู้ป่วยยาเสพติดนั่นเอง การร่วมมือกันในการหาทางออกจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอบอุ่นใจ และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของตนเอง บุคคลอันเป็นที่รักของคุณจะไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นภาระ สามารถช่วยเหลือตัวเองในการบำบัดอาการติดยาได้ ทำให้เกิดความรู้สึกดีในตนเองขึ้น ทำให้การบำบัดอาการติดยาเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
5. ปรึกษาแพทย์ สถานบำบัดยาเสพติดที่ได้มาตรฐาน
เมื่อเกิดความเข้าใจกับบุคคลอันเป็นที่รัก ร่วมมือกันในการแก้ปัญหาแล้ว การมองหาตัวช่วย เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยรักษาอาการติดยาเสพติดให้กับบุคคลอันเป็นที่รักของคุณ แพทย์และศูนย์บําบัดยาเสพติดที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้คำแนะนำในการรักษาอาการติดยาเสพติด อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำในด้านจิตวิทยาเพื่อให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณ สามารถเลิกยาเสพติดและกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ ทั้งยังไม่หวนกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณมองเห็นคุณค่าในตัวเองอย่างแท้จริง
6. ทำกิจกรรมดีๆร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ
ความรักและสายสัมพันธ์อันดีในครอบครัวที่ทำร่วมกันคือวิธีถอนพิษยาเสพติดที่ได้ผลดีที่สุด การทำกิจกรรมดีๆร่วมกัน เช่นออกกำลังกาย ทำอาหาร พูดคุย ร้องเพลง เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความผูกพันในครอบครัวให้เป็นเกราะกำบังบุคคลอันเป็นที่รักของคุณไม่ให้เข้าสู่วังวนของการติดยาเสพติดอีกครั้ง เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำกิจกรรมดีๆร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ
การรับมือกับผู้ติดยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่อยากจนเกินไป เพียงทุกคนในครอบครัวมีความรัก ความเข้าใจ และอดทนในการจับมือก้าวข้ามปัญหา ก็จะทำให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณสามารถรักษาอาการติดยาเสพติดได้ในที่สุด
source: Phufa Enterprise