แก้ไขล่าสุด วันที่ 27th August, 2023 at 08:15 am
ไปพบอัยการคุ้มครองสิทธิ์จังหวัดสุรินทร์ให้อัยการช่วยอ่านคำพิพากษาให้ว่าศาลฎีกาตัดสินว่าอย่างไร นำคำพิพากษานั้น ไปให้ที่ดินแล้วก็แบ่งให้ได้เลยก็ทำตามนั้น แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้ อัยการจะดูว่าทำยังไงถึงจะได้ ก็คือมาประเด็นที่ที่ดินอ้างว่าต้องให้พี่น้อง 2-3 คนทำไมเห็นชอบเนี่ยแล้วก็ไม่มา ก็ให้อัยการเชิญทั้ง 3 คนนั้นมาเจรจา ทำบันทึกกันเสร็จ ยินยอม ก็จบเลย ทีนี้พอจบ ก็มาโอนกันได้ ให้อัยการช่วยนะคุณลุงทรงนะครับแล้วถ้าไปแล้วติดเดี๋ยวนะไม่ต้องพูดแล้วครับถ้าไปแล้วติดขัดยังไงลุงทรงบอกมาเดี๋ยวผมจะตามเรื่องให้ แต่ไปพบอัยการคุ้มครองสิทธิ์ก่อน ขอให้ทำด้วยตัวเองก่อนนะครับเอาคำพิพากษาไปไปพบอัยการคุ้มครองสิทธิ์ ก่อนไปโทรศัพท์ไปบอกก่อนแล้วนัดว่าจะไปพบวันไหนอย่าไปวันจันทร์ วันจันทร์ ถ้างานยุ่ง ไปวันอังคารถึงวันศุกร์ วันเสาร์ก็ยังไปได้เขาทำงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์จังหวัดสุรินทร์
ผู้จัดการมรดก ก็สำคัญนะ
ผู้จัดการมรดก มีทำหน้าที่รวบรวม ทำบัญชี และแบ่งปันทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายให้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย และที่สำคัญ ผู้จัดการมรดก ต้องเป็นบุคคลซึ่งศาลมีคำสั่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกนะครับ
หน้าที่ของผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็นเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไปและมีหน้าที่รวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งให้ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม ตลอดจนชำระหนี้สินของเจ้ามรดกแก่เจ้าหนี้ ทำบัญชีทรัพย์มรดก และทำรายการแสดงบัญชีการจัดการและแบ่งมรดก โดยต้องจัดการไปในทางที่เป็นประโยชน์แก่มรดก จะทำนิติกรรมใดๆ ที่เป็นปรปักษ์ต่อกองมรดกไม่ได้
หากผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ เช่น ปิดบังมรดกต่อทายาท หรือเบียดบังเป็นของตน หรือเพิกเฉยไม่แบ่งมรดกให้แก่ทายาท ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้จัดการมรดก เพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควรก็ได้ และอาจมีความผิดอาญามีโทษจำคุกได้
คุณสมบัติของผู้จัดการมรดก
1. บรรลุนิติภาวะ ( มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ )
2.ไม่เป็นคนวิกลจริต
3.ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
1.ทายาท (ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม)
2.ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
3.พนักงานอัยการ
เอกสารที่ต้องนำมายื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก
1.สำเนาใบมรณบัตรหรือหนังสือรับรองการตายของผู้ตายและทายาททุกคนที่เสียชีวิตแล้ว
2.สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ตายที่เจ้าหนาที่ประทับว่า “ตาย” แล้ว
3.สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกและทายาททุกคนที่มีชีวิตอยู่
4.ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า ของสามีภรรยาของผู้ตาย
5.ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล กรณีเอกสารไม่ตรงกัน
6.สูติบัตรของบุตรกรณียังไม่บรรลุนิติภาวะ
7.พินัยกรรมของผู้ตาย (ถ้ามี)
8.หนังสือให้ความยินยอมของทายาทที่เซ็นยินยอมต่อหน้าเจ้าหน้าที่
9.บัญชีเครือญาติที่ถูกต้องตามความจริง
10.เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ต้องจัดการ เช่น โฉนดที่ดิน, น.ส. 3, สมุดเงินฝาก, ทะเบียนรถ ฯลฯ



























