ครอบครองปรปักษ์ ทรัพย์มรดกได้หรือไม่

ทรัพย์มรดกไม่สามารถครอบครองปรปักษ์ได้

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 บัญญัติว่า “บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นโดยสงบ เปิดเผย และโดยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปี ให้ถือว่าได้กรรมสิทธิ์นั้น”

อย่างไรก็ตาม มาตรา 1383 บัญญัติว่า “ที่ดินสาธารณสมบัติของหมู่บ้านหรือชุมชน บุคคลใดจะครอบครองปรปักษ์ไม่ได้”

ดังนั้น ทรัพย์มรดกซึ่งถือเป็นทรัพย์สินของผู้อื่น บุคคลใดจะครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ แม้จะครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี ก็ตาม

หากบุคคลใดครอบครองทรัพย์มรดกโดยเจตนาจะครอบครองปรปักษ์ ทายาทของเจ้าของทรัพย์มรดกเดิมสามารถดำเนินการต่างๆ เพื่อป้องกันสิทธิของตนได้ ดังนี้

  • ฟ้องร้องบุคคลผู้ครอบครองปรปักษ์ เพื่อให้ศาลระงับการครอบครองปรปักษ์และคืนทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทของเจ้าของทรัพย์มรดกเดิม
  • ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีอาญาแก่บุคคลผู้ครอบครองปรปักษ์ ในข้อหาบุกรุก
  • แจ้งความต่อเจ้าพนักงานที่ดิน เพื่อให้ระงับการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์มรดกให้แก่บุคคลผู้ครอบครองปรปักษ์

ในการฟ้องร้องบุคคลผู้ครอบครองปรปักษ์ ทายาทของเจ้าของทรัพย์มรดกเดิมจะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าทรัพย์มรดกนั้นเป็นของตน บุคคลผู้ครอบครองปรปักษ์ได้เข้ามายึดถือครอบครองทรัพย์มรดก โดยเจตนาจะครอบครองปรปักษ์ และทายาทของเจ้าของทรัพย์มรดกเดิมไม่เคยสละสิทธิในทรัพย์มรดกนั้น

ในการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ทายาทของเจ้าของทรัพย์มรดกเดิมจะต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ถูกบุกรุก ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลผู้บุกรุก และหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ในการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ทายาทของเจ้าของทรัพย์มรดกเดิมจะต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ถูกโอนกรรมสิทธิ์ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลผู้โอนกรรมสิทธิ์ และหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

หากทายาทของเจ้าของทรัพย์มรดกเดิมดำเนินการต่างๆ ตามที่กล่าวมาแล้ว แต่ไม่สามารถปกป้องสิทธิของตนได้ อาจต้องเสียทรัพย์มรดกไปโดยปริยาย

Share on: